Sunday, September 13, 2009

ความลับที่เผยออก โดย อ.กอบชัย จิราธิวัฒน์

ความลับที่เผยออก
อฟ.3 : 1-13
เพราะเหตุนี้ข้าพเจ้าเปาโล ผู้ที่ถูกจำจองเพราะเห็นแก่พระเยซูคริสต์เพื่อท่านซึ่งเป็นคนต่างชาติ 2 ถ้าแม้ท่านทั้งหลายได้ยินถึงพระคุณของพระเจ้าอันเป็นพันธกิจ ซึ่งทรงโปรดประทานแก่ข้าพเจ้า เพื่อท่านทั้งหลายแล้ว 3 และรู้ว่าพระองค์ได้ทรงสำแดงให้ข้าพเจ้ารู้ข้อล้ำลึก ตามที่ข้าพเจ้าได้เขียนไว้แล้วอย่างย่อๆ 4 และโดยคำเหล่านั้น เมื่อท่านอ่านแล้วท่านก็รู้ถึงความเข้าใจของข้าพเจ้าในเรื่องความล้ำลึกของพระคริสต์ 5 ซึ่งในสมัยก่อนพระองค์ไม่ได้ทรงโปรดสำแดงแก่มนุษย์เหมือนอย่างบัดนี้ซึ่งทรงโปรดเผยแก่พวกอัครทูตผู้บริสุทธิ์และพวกผู้เผยพระวจนะโดยพระวิญญาณ 6 นี้คือคนต่างชาติได้เป็นผู้รับมรดกร่วมกันและเป็นอวัยวะของกายอันเดียวกันและมีส่วนได้รับคำสัญญาในพระเยซูคริสต์โดยข่าวประเสริฐนั้น 7 ข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพันธกรแห่งข่าวประเสริฐตามพระคุณซึ่งเป็นของประทานจากพระเจ้า ซึ่งทรงโปรดประทานแก่ข้าพเจ้าโดยฤทธิ์เดชของพระองค์ 8 ทรงโปรดประทานพระคุณนี้แก่ข้าพเจ้าผู้เป็นคนเล็กน้อยกว่าคนเล็กน้อยที่สุดในพวกธรรมิกชนทั้งหมด ทรงให้ข้าพเจ้าประกาศแก่คนต่างชาติถึงความไพบูลย์ของพระคริสต์อันหาที่สุดมิได้ 9 และทำให้คนทั้งปวงเห็นแผนงานแห่งความล้ำลึก ซึ่งตั้งแต่แรกสร้างโลกทรงปิดบังไว้ที่พระเจ้าผู้ทรงสร้างสารพัดทั้งปวง 10 ประสงค์จะให้เทพผู้ปกครองและศักดิเทพในสวรรคสถาน รู้จักปัญญาอันซับซ้อนของพระเจ้าทางคริสตจักร ณ บัดนี้ 11 ทั้งนี้ก็เป็นไปตามพระประสงค์นิรันดร์ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำให้สำเร็จแล้วในพระเยซูคริสตเจ้าของเรา 12 ในพระองค์นั้นเราจึงมีใจกล้าและมีโอกาสที่จะเข้าไปให้ถึงพระองค์ด้วยความไว้ใจเพราะความเชื่อในพระองค์ เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขอร้องท่านว่า 13 อย่าท้อถอยเพราะความยากลำบากของข้าพเจ้าเพราะเห็นแก่ท่านซึ่งเป็นศักดิ์ศรีของท่านเอง

1..ภารกิจแห่งพระคุณเพื่อสำแดงความล้ำลึก

2 ทธ 2:3 จงทนความยากลำบากด้วยกันกับทหารที่ดีของพระเยซูคริสต์

2 คร 4:16-18 เหตุฉะนั้นเราจึงไม่ย่อท้อ ถึงแม้ว่ากายภายนอกของเรากำลังทรุดโทรมไป แต่จิตใจภายในนั้นก็ยังคงจำเริญขึ้นใหม่ทุกวัน 17 เพราะว่าการทุกข์ยากเล็กๆ น้อยๆ ของเรา ซึ่งเรารับอยู่ประเดี๋ยวเดียวนั้นจะทำให้เรามีศักดิ์ศรีถาวรมากหาที่เปรียบมิได้ 18 เพราะว่าเราไม่ได้เห็นแก่สิ่งของที่เรามองเห็นอยู่ แต่เห็นแก่สิ่งของที่มองไม่เห็น เพราะว่าสิ่งของซึ่งมองเห็นอยู่นั้นเป็นของไม่ยั่งยืน แต่สิ่งซึ่งมองไม่เห็นนั้นก็ถาวรนิรันดร์

อฟ 3:2 ถ้าแม้ท่านทั้งหลายได้ยินถึงพระคุณของพระเจ้าอันเป็นพันธกิจ ซึ่งทรงโปรดประทานแก่ข้าพเจ้า เพื่อท่านทั้งหลายแล้ว
“พระคุณของพรเจ้าอันเป็นพันธกิจซึ่งทรงโปรดประทานให้แก่ข้าพเจ้า”

พระเจ้าเป็นผู้ประทานพันธกิจในการประกาศข่าวประเสริฐให้ อ.เปาโลบนถนนจากเยรูซาเล็มไปดามัสกัส

กจ 9 : 15-16 ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสกับท่านว่า “จงไปเถิด เพราะว่าคนนั้นเป็นภาชนะที่เราได้เลือกสรรไว้ สำหรับจะนำนามของเราไปยังประชาชาติ กษัตริย์และพวกอิสราเอล 16 เพราะว่าเราจะสำแดงให้เขาเห็นว่า เขาจะต้องทนทุกข์ลำบากมากเท่าใดเพราะนามของเรา”

อฟ 3:3-4 และรู้ว่าพระองค์ได้ทรงสำแดงให้ข้าพเจ้ารู้ข้อล้ำลึก ตามที่ข้าพเจ้าได้เขียนไว้แล้วอย่างย่อๆ 4 และโดยคำเหล่านั้น เมื่อท่านอ่านแล้วท่านก็รู้ถึงความเข้าใจของข้าพเจ้าในเรื่องความล้ำลึกของพระคริสต์ พระเจ้าสำแดงข้อล้ำลึกให้แก่ อ.เปาโล โดยตรงเจาะจงโดยทรงประทานความเข้าใจฝ่ายวิญญาณให้ อ.เปาโล เป็นการสำแดงฝ่ายวิญญาณ ทำให้ อ.เปาโลเข้าใจล้ำลึกอย่างชัดเจน จนสามารถจะอธิบายต่อๆมาได้ ความเข้าใจตรงนี้เป็นเหตุผลขับเคลื่อน อ.เปาโล ให้มุ่งมั่นในการปรนนิบัติรับใช้พระเยซูคริสต์

2. แผนการของข้อล้ำลึก (5-6)

“ในสมัยก่อน” หมายถึงในยุคพระคัมภีร์เดิมก่อนที่พระเยซูคริสต์ จะเสด็จมาบนโลกเพื่อหาบาปเรา คนในสมัยนั้นอ่านพระคัมภีร์เดิมแต่ไม่เข้าใจ เช่น

ปฐก 12:3 “เราจะอำนวยพรแก่คนที่อวยพรพระเจ้า เราจะสาปคนที่แช่งเจ้า บรรดาเผ่าพันธุ์ทั่วโลกจะได้พรเพราะเจ้า”

กท 3:8 “และพระคัมภีร์นั้นรู้ล่วงหน้าว่า พระเจ้าจะทรงให้คนต่างชาติเป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อ จึงได้ประกาศข่าวประเสริฐแก่อับราฮัมล่วงหน้าว่า ชนชาติทั้งหลายจะได้รับพระพรเพราะเจ้า เหตุฉะนั้นคนที่เชื่อจึงได้รับพระพรร่วมกับอัลราฮัมผู้ซึ่งเชื่อ”

อสย. 49:6 พระองค์ตรัสว่า ซึ่งเจ้าจะเป็นผู้รับใช้ของเราเพื่อจะยกบรรดาเผ่าของยาโคบขึ้น เพื่อจะให้อิสราเอลที่เหลืออยู่ กลับสู่สภาพดีนั้น ดูเป็นการเล็กน้อยเกินไป เราจะมอบให้เจ้าเป็นความสว่าง แก่บรรดาประชาชาติ เพื่อความรอดของเราจะถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก”

คนในยุคพระคัมภีร์เดิมอ่านแล้วไม่เข้าใจว่าพระเจ้าจะให้คนต่างชาติที่มีความเชื่อจะได้รับความชอบธรรมอย่างไรจนกระทั้ง อ.เปาโล บอกไว้ใน

กจ. 13 : 46-47 ฝ่ายเปาโลกับบารนาบัสมีใจกล้า ได้กล่าวว่า “จำเป็นที่จะต้องกล่าวพระวจนะของพระเจ้าให้ท่านทั้งหลายฟังก่อน แต่เมื่อท่านทั้งหลายปัดเสีย และตัดสินว่าตนไม่สมควรที่จะได้ชีวิตนิรันดร์ ดูเถิด พวกเราจะบ่ายหน้าไปหาคนต่างชาติ 47 ด้วยองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสสั่งเราอย่างนี้ว่า ‘เราได้ตั้งเจ้าไว้ให้เป็นความสว่างของคนต่างชาติ เพื่อเจ้าจะเป็นเหตุให้คนทั้งหลายรอด ถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก’ ”

คนที่เชื่อพระเจ้าในสมัยพระคัมภีร์เดิม ไม่สามารถเข้าใจนิมิตของพระเจ้าที่พูด ผู้ที่เชื่อพระเยซูคริสต์ทุกคน หรือพระมาซีฮาทั้งยิวและคนต่างชาติจะมารวมตัวกันเป็นร่างกายเดียวกัน และเป็นคริสตจักรของพระเจ้า

ความล้ำลึกนี้พระเจ้าได้เปิดเผยแก่พวกอัครทูตและผู้เผยพระวจนะ โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในช่วงสั้นๆคือ ช่วงที่พระเยซูคริสต์เสด็จมาและช่วงสั้นชีวิตของพวกอัครทูต อ.เปโตร อ.เปาโล อ.ยากอบ อ.ฟิลิป อ.มาระโก ในช่วงสั้นๆนี้เท่านั้น

ตัวอย่างนอกจากที่พระเจ้าสำแดงแก่ อ.เปาโล พระเจ้าก็สำแดงแก่ฟิลิปโดยให้ประกาศแก่ขันทีชาวเอธิโอเปีย (กจ. 8 : 26-40) และอ.เปโตร เห็นนิมิตที่พระเจ้าได้ไปประกาศแก่โคเนลิอัส (กจ.10:1-48)

ข้อล้ำลึกคือ คนต่างชาติเป็นผู้รับมรดกร่วมกับผู้เชื่อ JC ที่เป็นยิว เป็นอวัยวะของกายอันเดียวกันกับผู้เชื่อที่เป็นยิว มีส่วนในการรับสัญญาในพระคริสต์โดยข่าวประเสริฐเหมือนกับคนยิวที่เชื่อใน JC พระเจ้าต้องการสำแดงในเวลาที่เหมาะสม perfect time ของพระเจ้า

ยน 17 : 20-23 “ข้าพระองค์มิได้อธิษฐานเพื่อคนเหล่านี้พวกเดียว แต่เพื่อคนทั้งปวงที่วางใจในข้าพระองค์เพราะถ้อยคำของเขา 21 เพื่อเขาทั้งหลายจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังที่พระองค์ คือพระบิดาทรงสถิตในข้าพระองค์ และข้าพระองค์ในพระองค์ เพื่อให้เขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระองค์และกับข้าพระองค์ด้วย เพื่อโลกจะได้เชื่อว่าพระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มา 22 เกียรติซึ่งพระองค์ได้ประทานแก่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์ได้มอบให้แก่เขา เพื่อเขาจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังที่พระองค์กับข้าพระองค์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนั้น 23 ข้าพระองค์อยู่ในเขาและพระองค์ทรงอยู่ในข้าพระองค์ เพื่อเขาทั้งหลายจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างสมบูรณ์ เพื่อโลกจะได้รู้ว่าพระองค์ทรงใช้ข้าพระองค์มา และพระองค์ทรงรักเขาเหมือนดังที่พระองค์ทรงรักข้าพระองค์

แผนการล้ำลึกที่ถูกเปิดเผยมีคุณค่าอย่างยิ่ง เราต้องรักษา หวงแหน และประกาศแผนการนี้ออกไป เพราะเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า แผนนี้คือคนต่างชาติและคนยิวต่างก็
- เป็นผู้รับมรดกร่วมกัน
- เป็นอวัยวะของกายเดียวกัน คือร่างกายของพระคริสต์ ดดยมี JC เป็นศรีษะ
- มีส่วนร่วมกันได้รับคำสัญญาในพระคริสต์โดยข่าวประเสริฐ

2 คร 5 : 15 และพระองค์ได้ทรงวายพระชนม์เพื่อคนทั้งปวง เพื่อคนเหล่านั้นที่มีชีวิตอยู่จะมิได้อยู่เพื่อประโยชน์แก่ตัวเองอีกต่อไป แต่จะอยู่เพื่อพระองค์ผู้ทรงสิ้นพระชนม์และทรงเป็นขึ้นมาเพราะเห็นแก่เขาทั้งหลาย

ฟป 1 : 27 ขอแต่เพียงให้ท่านดำเนินชีวิตให้สมกับข่าวประเสริฐของพระคริสต์เพื่อว่า แม้ข้าพเจ้าจะมาหาท่านหรือไม่ก็ตาม ข้าพเจ้าก็จะได้รู้ข่าวของท่านว่า ท่านเชื่อมั่นคง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ต่อสู้เหมือนอย่างเป็นคนเดียวเพื่อความเชื่ออันเกิดจากข่าวประเสริฐนั้น

3. พันธกรแห่งข้อล้ำลึก (7-9)

คส 1: 25 “ข้าพเจ้าได้มาเป็นผู้รับใช้ของคริสตจักรตามที่พระเจ้าได้ทรงโปรดมอบภาระให้ข้าพเจ้าเพื่อท่าน เพื่อจะได้กล่าวพระวจนะของพระเจ้าอย่างสมบูรณ์”

กจ 26: 15-18 ข้าพระบาททูลถามว่า ‘พระเจ้าข้า พระองค์ทรงเป็นผู้ใด’ พระองค์จึงตรัสว่า ‘เราคือพระเยซู ซึ่งเจ้าข่มเหงนั่นแหละ’ 16 แต่ว่าจงลุกขึ้นยืนเถิด ด้วยว่าเราได้ปรากฏแก่เจ้าเพื่อจะตั้งเจ้าไว้ให้เป็นผู้รับใช้ และเป็นพยานถึงเหตุการณ์ซึ่งเจ้าเห็น และถึงเหตุการณ์ที่เราจะสำแดงตัวเราเองแก่เจ้าในเวลาภายหน้า 17 เราจะช่วยเจ้าให้พ้นจากชนชาตินี้ และจากคนต่างชาติที่เราจะใช้เจ้าไปหานั้น 18 เพื่อจะให้เจ้าเบิกตาของเขา เพื่อเขาจะกลับจากความมืดมาถึงความสว่าง และจากอำนาจของซาตานมาถึงพระเจ้า เพื่อเขาจะได้รับการยกโทษความบาปผิดของเขา และให้ได้รับที่ซึ่งจะได้ด้วยกันกับคนทั้งหลายซึ่งถูกชำระให้เป็นผู้ชอบธรรมแล้วโดยความเชื่อในเรา’”

อ.เปาโลรับใช้โดยอาศัยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณที่พระเจ้าประทานให้ทางพระคุณเราทั้งหลายก็เช่นกัน เมื่อมาเชื่อต่างก็อยู่ในฐานะของผู้รับใช้พระเจ้าร่วมกับ อ.เปาโล

1คร 15: 10 แต่ว่าข้าพเจ้าเป็นอยู่อย่างที่เป็นอยู่นี้ ก็เนื่องด้วยพระคุณของพระเจ้า และพระคุณของพระองค์ซึ่งได้ทรงประทานแก่ข้าพเจ้านั้น มิได้ไร้ประโยชน์ ตรงกันข้าม ข้าพเจ้ากลับทำงานมากกว่าพวกเขาเสียอีก มิใช่ตัวข้าพเจ้าเองทำ พระคุณของพระเจ้าซึ่งดำรงอยู่กับข้าพเจ้าต่างหากที่ทำ

คส 1: 29 เพื่อเหตุนี้เองข้าพเจ้าจึงตรากตรำทำงานด้วยความอุตสาหะ เข้มแข็งด้วยพลังที่พระองค์ทรงดลใจข้าพเจ้าอยู่

อฟ.3 : 8 ทรงโปรดประทานพระคุณนี้แก่ข้าพเจ้าผู้เป็นคนเล็กน้อยกว่าคนเล็กน้อยที่สุดในพวกธรรมิกชนทั้งหมด ทรงให้ข้าพเจ้าประกาศแก่คนต่างชาติถึงความไพบูลย์ของพระคริสต์อันหาที่สุดมิได้

เพราะอ.เปาโลรู้ว่าตัวเราไม่สมควรจะได้รับการอภัยบาปและการทรงเรียกมารับใช้พระเยซูคริสต์ อ.เปาโลเคยต่อต้านพระเยซูคริสต์และคริสเตียนอย่างรุนแรง

กจ 26: 9-11 “ข้าพระบาทเคยได้คิดในใจของตนเองว่า สมควรจะทำหลายสิ่งซึ่งขัดขวางพระนามของพระเยซูชาวนาซาเร็ธนั้น 10 สิ่งเหล่านั้นข้าพระบาทได้กระทำในกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อข้าพระบาทรับอำนาจจากพวกมหาปุโรหิตแล้วข้าพระบาทได้ขังวิสุทธชนหลายคนไว้ในคุก และครั้นเขาถูกลงโทษถึงตายข้าพระบาทก็เห็นดีด้วย 11 ข้าพระบาทได้ทำโทษเขาบ่อยๆ ในธรรมศาลาทุกแห่ง และบังคับเขาให้กล่าวคำหมิ่นประมาทพระเจ้า และเพราะข้าพระบาทโกรธเขายิ่งนัก ข้าพระบาทได้ตามไปข่มเหงถึงหัวเมืองในต่างประเทศ

1ทธ 1: 15 คำนี้เป็นคำจริงและสมควรที่คนทั้งปวงจะรับไว้ คือว่าพระเยซูคริสต์ได้เสด็จมาในโลกเพื่อจะได้ทรงช่วยคนบาปให้รอด และในพวกคนบาปนั้นข้าพเจ้าเป็นตัวเอง

ผู้ที่รักพระเยซูคริสต์มากคือ ผู้ที่พระเจ้ายกโทษให้มาก

ลก 7: 47 เหตุฉะนั้นเราบอกท่านว่า ความผิดบาปของนางซึ่งมีมากได้โปรดยกเสียแล้ว เพราะนางรักมาก แต่ผู้ที่ได้รับการยกโทษน้อย ผู้นั้นก็รักน้อย

และถ้ารู้สึกว่าพระเจ้ายกโทษให้มาก เราจะรักพระเจ้ามาก และเมื่อรักพระเจ้ามากก็จะเชื่อฟังมาก อยากเชื่อฟังมากก็จะอยากรับใช้พระเจ้ามาก “ความไพบูลย์ของพระคริสต์อันหาที่สุดมิได้”

อฟ.3 : 8 ทรงโปรดประทานพระคุณนี้แก่ข้าพเจ้าผู้เป็นคนเล็กน้อยกว่าคนเล็กน้อยที่สุดในพวกธรรมิกชนทั้งหมด ทรงให้ข้าพเจ้าประกาศแก่คนต่างชาติถึงความไพบูลย์ของพระคริสต์อันหาที่สุดมิได้

-พระกรุณาคุณอันอุดม, ความอดกลั้นพระทัย, ความอดทน
รม 2 : 4 หรือว่าท่านประมาทพระกรุณาคุณอันอุดม และความอดกลั้นพระทัยและความอดทนของพระองค์ ท่านไม่รู้หรือว่าพระกรุณาคุณของพระเจ้านั้นมุ่งที่จะชักนำท่านให้กลับใจใหม่

- พระปัญญาและความรอบรู้ของพระเจ้า
รม 11 : 33 โอ พระปัญญาและความรอบรู้ของพระเจ้านั้น ล้ำลึกเท่าใด ข้อตัดสินของพระองค์นั้นเหลือที่จะหยั่งรู้ได้และทางของพระองค์ก็เหลือที่จะสืบเสาะได้

- พระกรุณา, ความรักอันใหญ่หลวง
อฟ 2 : 4 แต่พระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระกรุณา เพราะเหตุความรักอันใหญ่หลวง ซึ่งพระองค์ทรงรักเรานั้น

- พระสิริ
อฟ 3 : 16 ขอให้พระองค์ทรงโปรดประทานกำลังเรียวแรงมากฝ่ายจิตใจแก่ท่านโดยเดชพระวิญญาณของพระองค์ตามความไพบูลย์แห่งพระสิริของพระองค์

- พระเจ้าประทานทุกสิ่ง เพื่อความสะดวกสบายของเรา
1ทธ 6 : 17 สำหรับคนเหล่านั้นที่มั่งมีฝ่ายโลก จงกำชับเขาอย่าให้มีมานะทิฐิหรือให้เขามุ่งหวังในทรัพย์ที่ไม่เที่ยงแต่จงหวังในพระเจ้าผู้ทรงประทานทุกสิ่งเพื่อความสะดวกสบายของเรา

- ความชูใจ
คส 2 : 2 เพื่อเขาจะได้รับความชูใจและเข้าติดสนิทกันในความรัก และเข้าใจความอุดมบริบูรณ์แห่งความเข้าใจ และเข้าในความรู้ความล้ำลึกของพระเจ้า คือพระคริสต์

- พระคำ
คส 3 : 16 จงให้พระวาทะของพระคริสต์ดำรงอยู่ในตัวท่านอย่างบริบูรณ์ จงสั่งสอนและเตือนสติกันด้วยปัญญาทั้งสิ้น จงร้องเพลงสดุดีเพลงนมัสการ และเพลงสรรเสริญด้วยใจโมทนาขอบพระคุณพระเจ้า

- ความครบบริบูรณ์ในพระองค์
คส 2 : 10 และท่านได้บรรลุถึงความครบบริบูรณ์ในพระองค์ ผู้เป็นศีรษะแห่งปวงเทพผู้ครองและศักดิเทพ

เมื่อเราได้รับทุกสิ่งเช่นนี้ เราจึงสามารถดำเนินชีวิตบนโลกนี้ด้วยความรัก ความชื่นชมยินดีในพระเจ้าและความเชื่อในพระเจ้า และเต็มด้วยพลังและฤทธิ์อำนาจที่จะปรนนิบัติพระเจ้า และติดตามพระเจ้าตลอดชีวิต เราจะมองหาโอกาสที่พระเจ้าจะใช้เรา และเมื่อนั้นเราจะยอมให้พระเจ้าใช้เรา

รม 15 : 13 ขอพระเจ้าแห่งความหวังทรงโปรดให้ท่านบริบูรณ์ด้วยความชื่นชมยินดี และสันติสุขในความเชื่อ เพื่อท่านจะได้เปี่ยมด้วยความหวังโดยฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณบริสุทธ์

4. จุดมุ่งหมายแห่งความล้ำลึก (10-11)

พระเจ้าต้องการเปิดเผยแผนงานแห่งความล้ำลึกนี้ ในเวลาของพระองค์ซึ่งเปิดเผยโดยทางคริสตจักร การเปิดเผยแผนงานอันล้ำลึกนี้ถูกปิดบังมาเรื่อยๆ จนกระทั้งมาถึงยุคที่พระเยซูคริสต์เสด็จมาในโลกเพื่อมาตั้งคริสตจักรของพระองค์

5. สิทธิพิเศษแห่งข้อล้ำลึก (12-13)

แต่เดี๋ยวนี้ โดยทางพระเยซูคริสต์ เราสามารถเข้าไปหาพระเจ้าได้ทุกวัน ทุกเวลาด้วยใจกล้าและความมั่นใจ นี่เป็นสิทธิพิเศษที่พระเจ้าให้โดยทางคริสตจักรซึ่งเป็นแผนการล้ำลึกของพระเจ้า

ฮบ 4 : 15-16 เพราะว่าเรามิได้มีมหาปุโรหิตที่ไม่สามารถจะเห็นใจในความอ่อนแอของเรา แต่ได้ทรงถูกทดลองในเหมือนอย่างเราทุกประการ ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังปราศจากบาป 16)ฉะนั้นขอให้เราทั้งหลายจงมีใจกล้าเข้ามาถึงพระที่นั่งแห่งพระคุณ เพื่อเราจะได้รับพระเมตตา และจะได้รับพระคุณที่จะช่วยเราในขณะที่ต้องการ

ในเมื่อพระเจ้าเปิดโอกาสให้เราเข้าไปหาพระองค์ได้ทุกเมื่อเช่นนี้ เราจึงไม่ต้องมีความหดหู่ ท้อใจ ในการดำเนินชีวิต เราสามารถจะเข้าไปหาพระเจ้า ผู้ทรงประทานกำลังเรี่ยวแรง สติปัญญาและทุกสิ่งให้แก่เราได้เสมอ

รม 8 : 35-39 แล้วใครจะให้เราทั้งหลายขาดจากความรักของพระคริสต์ได้เล่า จะเป็นความทุกข์ หรือความลำบาก หรือการเคียวเข็ญ หรือการกันดารอาหาร หรือการเปลือยกาย หรือการถูกโพยภัย หรือการถูกคมดาบหรือ 36 ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ‘เพราะเราเห็นแก่พระองค์ ข้าพระองค์จึงถูกประหารวันยังค่ำ และนับว่าเป็นแกะสำหรับจะเอาไปฆ่า’ 37 แต่ว่าในเหตุการณ์ทั้งปวงเหล่านี้ เรามีชัยเหลือล้นโดยพระองค์ผู้ได้ทรงรักเราทั้งหลาย 38 เพราะข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า แม้ความตาย หรือชีวิต หรือบรรดาทูตสวรรค์หรือเทพเจ้าหรือสิ่งซึ่งมีอยู่ในปัจจุบันนี้ หรือสิ่งซึ่งจะมีในภายหน้า หรือฤทธิ์เดชทั้งหลาย 39 หรือซึ่งสูง หรือซึ่งลึกหรือสิ่งใดๆ อื่นที่ได้ทรงสร้างแล้วนั้นจะไม่สามารถกระทำให้เราทั้งหลายขาดจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้

ฟป 4 : 5-7 จงให้จิตใจที่อ่อนสุภาพของท่านประจักษ์แก่คนทั้งปวง องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ใกล้แล้ว 6 อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆเลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้า ด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ 7 แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้า ซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์

No comments: