Sunday, October 18, 2009

เตรียม...เพื่อการเติบโต (Preparing for Growth) โดย อ.ดร.นุโรจน์ พานิช

เตรียม….เพื่อการเติบโต (Preparing for Growth)

กิจการ 1:12-26
แล้วอัครทูตจึงลงจากภูเขามะกอกเทศซึ่งอยู่ใกล้กรุงเยรูซาเล็ม ระยะทางเท่ากับระยะที่อนุญาตให้ คนเดินในวันสะบาโต กลับไปกรุงเยรูซาเล็ม 13 เมื่อเข้ากรุงแล้วเขาเหล่านั้นจึงขึ้นไปยังห้องชั้นบนที่เคยพักอยู่นั้น มีเปโตร ยอห์น ยากอบกับ อันดรูว์ ฟีลิปกับโธมัส บารโธโลมิวกับมัทธิว ยากอบบุตรอัลเฟอัส ซีโมนพรรคชาตินิยม กับ ยูดาสบุตรยากอบ 14 พวกเขาร่วมใจกันขะมักเขม้นอธิษฐานพร้อมกับพวกผู้หญิง และมารีย์มารดาของพระเยซูและ พวกน้องชายของพระองค์ด้วย 15 คราวนั้นเปโตรจึงได้ยืนขึ้นท่ามกลางพี่น้องทั้งหลายซึ่งประชุมกันอยู่ มีรวมทั้งสิ้นประมาณ ร้อยยี่สิบคนและกล่าวว่า 16 "ดูก่อนพี่น้องทั้งหลายจำเป็นจะต้องสำเร็จตามพระคัมภีร์ ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ตรัสไว้โดย โอษฐ์ของกษัตริย์ดาวิดด้วยเรื่องยูดาส ซึ่งเป็นผู้นำทางคนที่ไปจับพระเยซู 17 เพราะเขานับยูดาสเข้าในพวกเราและได้รับส่วนในภารกิจนี้ 18 ฝ่ายผู้นี้ได้เอาบำเหน็จแห่งการผิดของตนไปซื้อที่ดิน แล้วก็ล้มคะมำลงแตกกลางตัวไส้พุงทะลัก ออกมาหมด 19 เหตุการณ์นี้คนทั้งปวงที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มก็รู้ เขาจึงเรียกที่ดินแปลงนั้นตามภาษาของเขาว่า อาเคลดามา คือนาเลือด 20 ด้วยมีคำเขียนไว้ในพระธรรมเพลงสดุดีว่า ขอให้ที่อยู่ของเขาร้างเปล่า และอย่าให้มีผู้ใดอยู่ที่นั่น และขอให้อีกผู้หนึ่งมายึดตำแหน่งของเขา 21 เหตุฉะนั้น ในบรรดาคนที่เป็นพวกเดียวกับเราเสมอตลอดเวลาที่พระเยซูเจ้าได้เสด็จเข้าออกกับเรา 22 คือตั้งแต่บัพติศมาของยอห์น จนถึงวันที่พระเจ้าทรงรับพระองค์ขึ้นไปจากเรา คนหนึ่งในพวกนี้จะต้องเป็นพยานกับเราว่าพระองค์ได้ทรงคืนพระชนม์แล้ว" 23 เขาทั้งหลายจึงเสนอชื่อคนสองคนคือ โยเซฟที่เรียกว่าบารซับบาส มีนามสกุลว่ายุสทัสและมัทธีอัส 24 แล้วพวกศิษย์จึงอธิษฐานว่า "พระองค์ผู้ทรงทราบใจของมนุษย์ทั้งปวงเจ้าข้า ขอทรงสำแดงว่า ในสองคนนี้พระองค์ทรงเลือกคนไหน 25 ให้รับส่วนในการปรนนิบัตินี้ และรับตำแหน่งเป็นอัครทูตแทนยูดาส ซึ่งได้หลงจากหน้าที่ไปยังที่ ของตน" 26 เขาทั้งหลายจึงจับสลากกัน และสลากนั้นได้แก่มัทธีอัสจึงนับเขาเข้ากับอัครทูตสิบเอ็ดคนนั้น

1. เตรียมใจ… นบนอบเชื่อฟัง (12-14)

ฮบ 11:8 เพราะอับราฮัมมีความเชื่อ ฉะนั้นเมื่อพระเจ้าทรงเรียกให้ท่านออกเดินทาง ไปยังที่ซึ่งท่านจะรับเป็นมรดก ท่านได้เชื่อฟังและได้เดินทางออกไปโดยหารู้ไม่ว่าจะไปทางไหน

2 เตรียมชีวิต (14-20)

- ชีวิตแห่งการอธิษฐาน (14)

รม 15:6 เพื่อท่านทั้งหลายจะได้พร้อมใจกันสรรเสริญพระเจ้า ผู้ทรงเป็นพระบิดาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

- ชีวิตแห่งการทำตามพระประสงค์ (15-20)

สดด 69 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอดเพราะน้ำขึ้นมา ถึงคอข้าพระองค์แล้ว 2 ข้าพระองค์จมอยู่ในเลนลึก ไม่มีที่ยืน ข้าพระองค์มาอยู่ในน้ำลึกและน้ำท่วมข้าพระองค์ 3 ข้าพระองค์อ่อนระอาใจด้วยเหตุร้องไห้ คอของข้าพระองค์แห้งผาก ตาของข้าพระองค์มัวลง ด้วยการคอยท่าพระเจ้าของข้าพระองค์ 4 บรรดาคนที่เกลียดชังข้าพระองค์โดยไร้เหตุ มีมากยิ่งกว่าเส้นผมบนศีรษะข้าพระองค์ คนที่ทำลายข้าพระองค์ก็มีอิทธิพล คือผู้ที่เป็นพวกศัตรูของข้าพระองค์อย่างไม่มีเหตุบัดนี้ข้าพระองค์จะต้องส่งคืน สิ่งที่ข้าพระองค์มิได้ขโมยไปหรือ 5 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงทราบถึงความโง่ของข้าพระองค์ ความผิดที่ข้าพระองค์กระทำแล้วจะซ่อนไว้จากพระองค์ไม่ได้ 6 ข้าแต่พระเจ้าจอมโยธา ขออย่าให้บรรดาผู้ที่หวังใจในพระองค์ได้รับความอายเพราะข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ของอิสราเอล ขออย่าให้บรรดาผู้ที่เสาะพระองค์ได้ความอัปยศเพราะข้าพระองค์ 7 ที่ข้าพระองค์ทนการเยาะเย้ย ที่ความอับอายได้คลุมหน้าข้าพระองค์ไว้ก็เพราะเห็นแก่พระองค์ 8 ข้าพระองค์กลายเป็นแขกแปลกหน้าของพี่น้อง และเป็นคนต่างด้าวของบุตรแห่งมารดาข้าพระองค์ 9 ความร้อนใจในเรื่องพระนิเวศของพระองค์ได้ท่วมท้นข้าพระองค์ และคำเยาะเย้ยของบรรดาผู้ที่เยาะเย้ยพระองค์ตกแก่ข้าพระองค์ 10 เมื่อข้าพระองค์ถ่อมใจลงด้วยการอดอาหาร มันกลายเป็นการเยาะเย้ยข้าพระองค์ 11 เมื่อข้าพระองค์ ใช้ผ้ากระสอบเป็นเครื่องนุ่งห่มข้าพระองค์กลับเป็นขี้ปากของเขา 12 คนที่นั่งที่ประตูเมืองก็พูดเรื่องข้าพระองค์คนขี้เมาแต่งเพลงร้องว่าข้าพระองค์ 13 ข้าแต่พระเจ้าแต่ส่วนข้าพระองค์ ข้าพระองค์อธิษฐานต่อพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ในเวลาอันเหมาะสม โดยความรักมั่นคงอันอุดมของพระองค์ ขอทรงโปรดตอบข้าพระองค์ด้วยความอุปถัมภ์อย่างวางใจได้ 14 ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้น จากจมลงในเลน ขอทรง ช่วยกู้ข้าพระองค์จากคนที่เกลียดชังข้าพระองค์และจากน้ำลึก 15 ขออย่าให้น้ำท่วมข้าพระองค์ หรือน้ำที่ลึกกลืน ข้าพระองค์เสีย หรือปากแดนผู้ตายงับข้าพระองค์ไว้ 16 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงตอบข้าพระองค์ เพราะความรัก มั่นคงของพระองค์นั้นเลิศ ขอทรงหันมาหาข้าพระองค์ ตามพระกรุณาอันอุดมของพระองค์ 17 ขออย่าทรงซ่อนพระพักตร์ของพระองค์เสียจากผู้รับใช้ของพระองค์ เพราะข้าพระองค์ทุกข์ใจ ขอทรงรีบตอบข้าพระองค์ 18 ขอมาใกล้ข้าพระองค์ ทรงไถ่ข้าพระองค์ไว้ เพราะศัตรูของข้าพระองค์ ขอทรงปลดเปลื้องข้าพระองค์ 19 พระองค์ทรงทราบการที่เขาเยาะเย้ยข้าพระองค์แล้ว ทั้งความอายและความอัปยศของข้าพระองค์ พระองค์ทรงทราบถึงบรรดาคู่อริของข้าพระองค์หมด 20 การเยาะเย้ยกระทำให้จิตใจข้าพระองค์ชอกช้ำ ข้าพระองค์จึงหมดกำลังใจ ข้าพระองค์มองหาผู้สงสาร แต่ก็ไม่มี หาผู้เล้าโลม แต่ข้าพระองค์หาไม่พบ 21 เขาให้ดีหมีแก่ข้าพระองค์เป็นอาหาร ให้น้ำส้มสายชูแก่ข้าพระองค์ดื่มแก้กระหาย 22 ขอให้สำรับที่อยู่ตรงหน้าเขาเองเป็นกับดักเขา และการเลี้ยงในพิธีสักการบูชาเป็นบ่วง 23 ขอให้นัยน์ตาของเขามืด เพื่อเขาจะไม่เห็นและทำบั้นเอวเขาให้สั่นสะเทือนเรื่อยไป 24 ขอทรงเทความกริ้วลงเหนือเขา และให้ความกริ้วอันเผาร้อนตามทันเขา 25 ขอให้ค่ายของเขาร้างเปล่า อย่าให้ผู้ใดพักอยู่ในเต็นท์ของเขา 26 เพราะเขาได้ข่มเหง ผู้ที่พระองค์ทรงเฆี่ยนตีเขาเล่าถึงความเจ็บปวดของผู้ที่พระองค์ให้บาดเจ็บแล้ว 27 ขอทรงเพิ่มโทษ แล้วทรงเพิ่มอีก อย่าให้เขาได้รับการอภัยจากพระองค์ 28 ขอให้เขาถูกลบออกเสียจากทะเบียนผู้มีชีวิตอย่าให้เขาขึ้นทะเบียนไว้ในหมู่คนชอบธรรม 29 แต่ข้าพระองค์ทุกข์ยากและเจ็บปวด ข้าแต่พระเจ้า ขอความรอดของพระองค์ตั้ง ข้าพระองค์ไว้ให้สูง 30 ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระนามพระเจ้าด้วยบทเพลง ข้าพเจ้าจะยกย่องพระองค์โดยโมทนาพระคุณ

สดด 109 ข้าแต่พระเจ้า ผู้ซึ่งข้าพระองค์สรรเสริญ ขออย่าทรงนิ่งเสีย 2 เพราะปากที่อธรรมและหลอกลวงอ้าใส่ข้าพระองค์อยู่แล้ว ได้พูดปรักปรำข้าพระองค์ด้วยลิ้นมุสา 3 เขาทั้งหลายล้อม ข้าพระองค์ไว้ด้วยถ้อยคำเกลียดชังและโจมตีข้าพระองค์อย่างไร้เหตุ 4 เขาฟ้องข้าพระองค์แทนความรักของข้าพระองค์ ส่วนข้าพระองค์ได้อธิษฐานเท่านั้น 5 เขาตอบแทนข้าพระองค์ด้วยความชั่วแทนความดี และความเกลียดชังแทนความรักของข้าพระองค์ 6 ขอทรงตั้งคนอธรรมปรักปรำเขา และให้โจทก์ฟ้องเขาให้เป็นคดี 7 เมื่อพิจารณาคดี ก็ให้เขาปรากฏว่าเป็นผู้กระทำผิด และให้คำอธิษฐานของเขาไร้ผล 8 ขอให้วันเวลาของเขาน้อย ขอให้อีกผู้หนึ่งมายึดตำแหน่งของเขา 9 ขอให้ลูกของเขากำพร้าพ่อ และภรรยาของเขาเป็นม่าย 10 ขอให้ลูกของเขาต้องพเนจรขอทานไป ขอให้เขาถูกขับไล่ไปจากที่สลักหักพังซึ่งเขาอาศัยอยู่ 11 ขอให้เจ้าหนี้มายึดของทั้งสิ้นที่เขามีอยู่ขอคนต่างถิ่นมาปล้นผลงานของเขาไป 12 ขออย่าให้ผู้ใดเอ็นดูเขา อย่าให้ผู้ใดสงสารลูกกำพร้าของเขา 13 ขอให้วงศ์วานของเขาถูกตัดออก ขอให้สกุลของเขาสิ้นไปในอีกชั่วชีวิตหนึ่ง 14 ขอให้ความบาปผิดของบรรพบุรุษของเขายังเป็นที่จำได้อยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้า อย่าให้บาปของมารดาเขาลบเลือนไป 15 ขอให้บาปนั้นอยู่ต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้าเป็นนิตย์ เพื่อพระองค์จะทรงตัดอนุสรณ์ของเขาเหล่านั้นเสียจากแผ่นดินโลก 16 เพราะเขาไม่จดจำ ที่จะแสดงความเอ็นดู แต่ไล่ข่มเหงคนจนและคนขัดสน และคนใจท้อเพื่อจะฆ่าเสีย 17 เขารักที่จะแช่ง ขอให้คำแช่งตกบนเขา เขาไม่ชอบการ ให้พร ขอพรจงห่างไกลจากเขา 18 เขาเอาการแช่งห่มต่างเสื้อผ้าของเขา ขอให้ซึมเข้าไปในกายของเขาอย่างน้ำ ขอ ให้ซึมเข้าไปในกระดูกของเขาอย่างน้ำมัน 19 ให้เหมือนเครื่องแต่งกายที่คลุมเขาอยู่ เหมือนเข็มขัดที่คาดเขาไว้เสมอ 20 ทั้งนี้ขอให้เป็นบำเหน็จจากพระเจ้าแก่โจทก์ของ ข้าพระองค์ แก่ผู้ที่กล่าวร้ายต่อชีวิตของข้าพระองค์ 21 ข้าแต่พระเจ้า พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงกระทำเพื่อข้าพระองค์โดยเห็นแก่พระนามของพระองค์เพราะว่าความรักมั่นคงของพระองค์นั้นประเสริฐ ขอทรงช่วยกู้ข้าพระองค์ 22 เพราะข้าพระองค์ยากจนและขัดสน และจิตใจของข้าพระองค์ก็บาดเจ็บอยู่ภายใน 23 ข้าพระองค์สิ้นสุดไปแล้วอย่างเงาตอนเย็น ข้าพระองค์ถูกสลัดออกเหมือนตั๊กแตน 24 เข่าของข้าพระองค์ก็อ่อนเปลี้ยเพราะการอดอาหารร่างกายของข้าพระองค์ก็ซูบผอมไป 25 ข้าพระองค์เป็นขี้ปากของเขา เมื่อเขาเห็นข้าพระองค์ เขาก็สั่นศีรษะ {อาการอย่างนี้แปลว่า เย้ยหยัน} 26 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอดตามความรักมั่นคงของพระองค์ 27 ขอให้เขาทราบ ว่านี่เป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ได้ทรงกระทำการนี้ 28 ให้เขาแช่งไป แต่ขอพระองค์ทรง อำนวยพระพรขอให้ผู้ที่ลุกขึ้นสู้ข้าพระองค์ได้อาย ขอให้ผู้รับใช้ของพระองค์ยินดี 29 ขอให้โจทก์ของข้าพระองค์ห่มความอัปยศ ขอให้ความอับอายสวมกายเขาอย่างเสื้อคลุม 30 ด้วยปากของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะโมทนาขอบพระคุณ พระเจ้าเป็นอย่างมาก ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางคนมากหลาย 31 เพราะพระองค์ประทับขวามือของคนขัดสน เพื่อทรงช่วยเขาให้พ้นจากคนที่ปรับโทษเขานั้น

ยน 6:70-71 พระเยซูตรัสตอบเขาว่า "เราเลือกพวกท่านสิบสองคนมิใช่หรือ และคนหนึ่งในพวกท่านเป็นมารร้าย” 71พระองค์ทรงหมายถึงยูดาสบุตรของซีโมน อิสคา ริโอท เพราะว่าเขาเป็นผู้ที่จะอายัดพระองค์ไว้ คือ คนหนึ่งในสาวกสิบสองคน

ยน 13:21-26 เมื่อพระเยซูตรัสดังนั้นแล้วพระองค์ก็ทรงเป็นทุกข์ ในพระทัย และตรัสเป็นพยานว่า "เราบอกความจริงแก่ท่านว่า คนหนึ่งในพวกท่านจะอายัดเราไว้” 22เหล่าสาวกจึงมองหน้ากัน และสงสัยว่าคนที่พระองค์ตรัสถึงนั้นคือผู้ใด 23 ที่สำรับมีสาวกคนหนึ่งที่พระองค์ทรงรัก ได้เอนกายอยู่ใกล้พระทรวงของพระองค์ 24 ซีโมนเปโตรจึงพยักหน้าให้เขาทูลถามพระองค์ว่า คนที่พระองค์ตรัสถึงนั้นคือผู้ใด 25 ขณะที่ยังเอนกายอยู่ใกล้พระทรวงของพระองค์ สาวกคนนั้นก็ทูลถามพระองค์ว่า "พระองค์เจ้าข้า คนนั้นคือใคร” 26 พระองค์ ตรัสตอบว่า "คนนั้นคือผู้ ที่เราจะเอาอาหารนี้จิ้มแล้วยื่นให้" เมื่อพระองค์ทรงเอาอาหารนั้นจิ้มแล้วก็ทรงยื่นให้แก่ยูดาสบุตรซีโมนอิสคาริโอท

3. เตรียมสู่การรับใช้ (21-26)

- รับใช้พี่น้อง

กดว 34:13 โมเสสบัญชาคนอิสราเอลกล่าวว่า "นี่เป็นแผ่นดินที่เจ้าทั้งหลายจะได้จับฉลากรับเป็นมรดก ซึ่งพระเจ้าทรงบัญชาว่า ให้ยกให้แก่ทั้งเก้าเผ่ากับอีกครึ่งเผ่า

ยชว 18:10 แล้วโยชูวาก็จับฉลากให้เขาต่อพระพักตร์พระเจ้า โยชูวาก็ได้จัดแบ่งที่ดิน ให้แก่ประชาชนอิสราเอลที่นั่นตามส่วนแบ่งของแต่ละเผ่า

1ซมอ 10:20-21 แล้วซามูเอลก็นำเผ่าอิสราเอลทุกเผ่าเข้ามาใกล้ และจับฉลากได้เผ่าเบนยามิน 21ท่านก็นำเผ่าเบนยามินเข้ามาใกล้ตามตระกูล จับฉลากได้ตระกูลมัตรี และจับฉลากได้ซาอูลบุตรคีชแต่เมื่อเขาหาซาอูลก็หาไม่พบ

สภษ 16:33 ฉลากนั้นเขาทอดลงที่ตัก แต่การตัดสินมาจากพระเจ้าทั้งสิ้น

No comments: