Monday, November 9, 2009

คริสตจักรที่เกิดผลเพื่อพระคริสต์ โดย อ.กอบชัย จิราธิวัฒน์

คริสตจักรที่เกิดผลเพื่อพระคริสต์

กจ 2:42-47
เขาทั้งหลายได้ขะมักเขม้นฟังคำสอนของจำพวกอัครทูตและร่วมสามัคคีธรรม ทั้งขะมักเขม้นในการหักขนมปังและการอธิษฐาน 43 เขามีความเกรงกลัวด้วยกันทุกคน และพวกอัครทูตทำการอัศจรรย์ และหมายสำคัญหลายประการ 44 บรรดาผู้ที่เชื่อถือนั้นก็อยู่พร้อมกัน ณ ที่แห่งเดียว และทรัพย์สิ่งของของเขาเหล่านั้นเขาเอามารวมกันเป็นของกลาง 45 เขาจึงได้ขายที่ดินและทรัพย์สิ่งของ มาแบ่งให้แก่คนทั้งปวงตามซึ่งทุกคนต้องการ 46 เขาได้ร่วมใจกันไปในพระวิหาร และหักขนมปังตามบ้านของเขา ร่วมรับประทานอาหารด้วยความชื่นชมยินดีและใจกว้างขวาง ทุกวันเรื่อยไป 47 ทั้งได้สรรเสริญพระเจ้าและคนทั้งปวงก็ชอบใจ ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้า ได้ทรงโปรดให้คนทั้งหลายซึ่งกำลังจะรอด มาเข้ากับพวกสาวกทุกวันๆ

พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงลงมาแตะต้องสาวกที่ห้องชั้นบน เขาทั้งหลายได้พูดภาษาแปลกๆ และมีความกล้าหาญในการประกาศพระนามพระเยซูคริสต์ เปโตรได้เทศนาประกาศ มีคนรับเชื่อ 3,000 คนในเวลานั้น และได้รับบัพติศมาในน้ำ คริสตจักรเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นคริสตจักรที่มีฤทธิ์เดชของพระวิญญาณ

1.พวกเขาร่วมใจกันทุ่มเทชีวิตด้วยกัน (42)
เราอาจมีความสุขกับการร่วมกิจกรรมกับคนฝ่ายโลก เช่น คุยกันเรื่องตลาดหุ้น การลงทุน คุยกันเรื่องการเงิน สร้าง Network ธุรกิจ
แต่พระเจ้าอยากให้เราผูกพันตัวในคริสตจักรของพระองค์ เราทุกคนเป็นอวัยวะในพระวรกายโดยมีพระคริสต์ทรงเป็นศีรษะ โลกนี้เป็นของชั่วคราว ความถาวรคือชีวิตในสวรรค์ร่วมกับพระเยซูคริสต์และพี่น้อง

สมัยนั้นมีทาสอยู่ เมื่อเข้ามาในโบสถ์ก็เป็นพี่น้องกัน ผู้หญิงสมัยนั้นถูกข่มเหงมากมาย แต่เมื่อเข้ามาในคริสตจักรก็ได้รับเกียรติ ได้รับการต้อนรับ มีความแตกต่างกันอย่างมากจากสังคมของผู้ที่ยังไม่เชื่อ

ขะมักเขม้น ในภาษาอังกฤษหมายถึงการอุทิศตัว (Devoted) พี่น้องในคริสตจักรสมัยแรกเขาทุ่มเทและมีเป้าหมายและอุทิศตัวเพื่อพระเจ้า

เขาทุ่มเทเรื่องอะไรบ้าง

1.1) ฟังคำสอนของจำพวกอัครทูต

ข้อ 42 บอกถึงการให้ความสำคัญกับพระวจนะ

ยน.6:63 จิตวิญญาณเป็นที่ให้มีชีวิต ส่วนเนื้อหนังไม่มีประโยชน์อันใด ถ้อยคำซึ่งเราได้กล่าวกับท่านทั้งหลายนั้น เป็นจิตวิญญาณและเป็นชีวิต

1 ปต.2:2 เช่นเดียวกับทารกแรกเกิด จงปรารถนาน้ำนมฝ่ายวิญญาณอันบริสุทธิ์ เพื่อโดยน้ำนมนั้นจะทำให้ท่านทั้งหลายเจริญขึ้นสู่ความรอด

เด็กต้องการน้ำนมฝ่ายวิญญาณฉันใด คริสเตียนต้องรับอาหารฝ่ายวิญญาณฉันนั้น

ยน.8:31-32 พระเยซูจึงตรัสกับพวกยิวที่ศรัทธาในพระองค์แล้วว่า "ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในคำของเรา ท่านก็เป็นสาวกของเราอย่างแท้จริง และท่านทั้งหลายจะรู้จักสัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท"

1.2) ร่วมสามัคคีธรรม

Koinonia ทุ่มเทสัมพันธ์อย่างลึกซึ้ง ทุ่มเทชีวิตต่อกันและกัน เราไม่ได้มาจรรโลงสังคมที่ให้เกียรติกันและกันเท่านั้น แต่เราตั้งใจร่วมแรงร่วมใจเพื่อพระเจ้า เพื่อพลังฝ่ายวิญญาณเราจะทำการของพระองค์

ฮบ.10:25 อย่าขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนที่ขาดอยู่นั้น แต่จงพูดหนุนใจกันให้มากยิ่งขึ้น เพราะท่านทั้งหลายก็รู้อยู่ว่าวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว

การรับใช้ด้วยการผูกพันตัว จะทำให้เราเติบโตอย่างมากมายกับพระเจ้าทั้งลักษณะชีวิตและการรู้จักพระเจ้า อย่าให้มารหลอกเราว่าเราต้องใช้เวลานานๆ ในการเติบโตเพื่อที่จะเข้มแข็งกับพระเจ้า เราสามารถเติบโตได้ในเวลาอันสั้น เราสามารถเชื่อฟังพระเจ้า ดำรงในพระวจนะพระองค์ และเติบโตกับพระเจ้า สามารถแยกแยะความดีความชั่วได้
อย่าคิดว่าขอค่อยๆ เปลี่ยน อย่าลืมว่าชีวิตของเราแก่ลงเรื่อยๆ ทุกปี

1.3) ขะมักเขม้นในการหักขนมปัง (Share in the Holy Communion)

1.4) ร่วมใจกันอธิษฐาน (Pray Together)

มธ.18:18-20 เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า สิ่งสารพัดซึ่งท่านจะกล่าวห้ามในโลก ก็จะถูกกล่าวห้ามในสวรรค์ และสิ่งซึ่งท่านจะกล่าวอนุญาตในโลก ก็จะได้รับอนุญาตในสวรรค์เหมือนกัน เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายอีกว่า ถ้าในพวกท่านที่อยู่ในโลกสองคนจะร่วมใจกันขอสิ่งหนึ่งสิ่งใด พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ก็จะทรงกระทำให้ ด้วยว่ามีสองสามคนประชุมกันที่ไหนๆ ในนามของเรา เราจะอยู่ท่ามกลางเขาที่นั่น"

2.ชีวิตอยู่ด้วยความยำเกรงในพระเจ้า (43) (Fear of God)

Phobos ยำเกรง เกรงกลัวพระเจ้า

กจ.5:11 ความเกรงกลัวอย่างยิ่งเกิดขึ้นในคริสตจักร และในหมู่คนทั้งปวงที่ได้ยินเหตุการณ์นั้น

ลก.7:15-16 คนที่ตายนั้นก็ลุกนั่งเริ่มพูด พระองค์จึงทรงมอบชายหนุ่มให้แก่มารดาของเขา ฝ่ายคนทั้งปวงมีความกลัวและสรรเสริญพระเจ้าว่า "ท่านผู้เผยพระวจนะใหญ่ได้เกิดขึ้นท่ามกลางเรา และพระเจ้าได้เสด็จมาเยี่ยมเยียนชนชาติของพระองค์แล้ว"

เราต้องยำเกรงพระเจ้า

มธ.10:28 อย่ากลัวผู้ที่ฆ่าได้แต่กาย แต่ไม่มีอำนาจที่จะฆ่าจิตวิญญาณ แต่จงกลัวพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ ที่จะให้ทั้งจิตวิญญาณทั้งกายพินาศในนรกได้

การยำเกรงพระเจ้าต้องแสดงออกเป็นการกระทำ เราไม่พูดโกหก ไม่เลิกทะเลาะกับพี่น้อง ไม่อยากเปลี่ยนแปลงชีวิต ถ้าเราเป็นอย่างนั้น พระเจ้าจะไม่อวยพรคริสตจักร

กจ.2:43 อย่ากลัวผู้ที่ฆ่าได้แต่กาย แต่ไม่มีอำนาจที่จะฆ่าจิตวิญญาณ แต่จงกลัวพระองค์ผู้ทรงฤทธิ์ ที่จะให้ทั้งจิตวิญญาณทั้งกายพินาศในนรกได้

มก.16:17-18 มีคนเชื่อที่ไหนหมายสำคัญเหล่านี้จะบังเกิดขึ้นที่นั้น คือเขาจะขับผีออกโดยนามของเรา เขาจะพูดภาษาแปลกๆ เขาจะจับงูได้ ถ้าเขากินยาพิษอย่างใด จะไม่เป็นอันตรายแก่เขา และเขาจะวางมือบนคนไข้คนป่วย แล้วคนเหล่านั้นจะหายโรค"

กจ.5:15-16 จนเขาหามคนเจ็บป่วยออกไปที่ถนนวางบนที่นอนและแคร่ เพื่อเมื่อเปโตรเดินผ่านไป อย่างน้อยเงาของท่านจะได้ถูกเขาบางคน ประชาชนได้ออกมาจากเมืองที่อยู่ล้อมรอบกรุงเยรูซาเล็ม พาคนป่วยและคนที่มีผีโสโครกเบียดเบียนมา และทุกคนก็หาย

3 .สาวกร่วมชีวิตกันและกันอบย่างเข้มข้น (44-46)

3.1) สาวกเอาทรัพย์สิ่งของจุนเจือเลี้ยงดูกัน (Share everything in common)

การจุนเจือของพี่น้องทำด้วยความรักและเต็มใจ ต่างจากสังคมคอมมิวนิสต์ เพราะคอมมิวนิสต์นำทรัพย์สินมารวมกันด้วยการบังคับ
การให้กันและกันทำด้วยใจรักและความเพียงพอ เมื่อเขาไม่จำเป็นเขาก็ไม่รับของจุนเจือ
ในพระคัมภีร์ไม่ได้บอกว่าเขาขายบ้าน เขาขายทรัพย์สิน ให้บ้านเพื่อการสามัคคีธรรม

3.2) เขาร่วมใจกันในการไปชุมนุมนมัสการสรรเสริญพระเจ้าทุกวัน (Meet and worship God together everyday)
การเข้าไปในพระวิหารเชื่อว่าเป็นการไปประกาศเรื่องพระเยซู

เขารับประทานอาหารด้วยกัน มีความสนิทสนมกัน

วว.3:20 นี่แน่ะ เรายืนเคาะอยู่ที่ประตู ถ้าผู้ใดได้ยินเสียงของเราและเปิดประตู เราจะเข้าไปหาผู้นั้นและจะรับประทานอาหารร่วมกับเขา และเขาจะรับประทานอาหารร่วมกับเรา

1 ปต.4:9 ท่านทั้งหลายจงต้อนรับเลี้ยงดูซึ่งกันและกันโดยไม่บ่น

4. ผล: พระเจ้าทรงอวยพรให้คริสตจักรทวีจำนวนอย่างมาก (ข้อ 47) Consequence: God multiplies the church

กจ.4:4 แต่คนเป็นอันมากที่ได้ฟังคำสอนนั้นก็เชื่อ จำนวนผู้ชายจึงเพิ่มขึ้นจนนับได้ประมาณห้าพันคน
มีคนมาเชื่อเพิ่มอีก 5,000 คน นับเฉพาะผู้ชาย ถ้านับรวมทั้งผู้หญิงและเด็กน่าจะประมาณ 20,000 คน
เขาทำอย่างนั้นได้เพราะเขายำเกรงพระเจ้า สามัคคีธรรมกันอย่างลึกซึ้ง และพระเจ้าทรงอวยพรเขาอย่างมากมาย

No comments: