Sunday, March 1, 2009

จะทำอย่างไร เมื่อไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร โดย อ.ประวัติ (01-03-09)

จะทำอย่างไร เมื่อไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
ทำไมคนเราจึงมีความซึมเศร้าหดหู่
1.ความเหนื่อยอ่อนฝ่ายร่างกาย
2.ความโกรธ
3.ความกังวล
4.ความรู้สึกผิด
5.คนที่รักเจ็บป่วย
6.การสูญเสียคนที่เรารัก
7.ความล้มเหลวในสิ่งที่ตั้งใจไว้
8.สูญเสียงาน
9.สูญเสียการยอมรับ
10.ชีวิตสมรสที่ไม่มีความสุข

2พศด
1.และอยู่มาภายหลัง คนโมอับและคนอันโมนและคนเมอูนีบางคนพร้อมกับเขาทั้งหลาย ได้ขึ้นมาทำสงครามกับเยโฮชาฟัท 3 และเยโฮชาฟัทก็กลัว และมุ่งแสวงหาพระเจ้าและได้ทรงประกาศให้อดอาหารทั่วยูดาห์ 12 ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ทราบว่าจะกระทำประการใด

1. พระเจ้าทรงเรียกท่านให้มีใจจดจ่อที่พระเจ้า
2พศด.20:3 และเยโฮชาฟัทก็กลัว และมุ่งแสวงหาพระเจ้าและได้ทรงประกาศให้อดอาหารทั่วยูดาห์

กษัตริย์ทูลต่อพระเจ้าด้วยความเชื่อ 3 ประการ
1.1. พระเจ้าทรงพระเจ้าในปัจจุบันมิใช่หรือ ?
2พศด.20:6 พระองค์มิได้เป็นพระเจ้าในฟ้าสวรรค์หรือ พระองค์มิได้ปกครองเหนือบรรดาราชอาณาจักรของประชาชาติหรือในพระหัตถ์ของพระองค์มีฤทธิ์และอำนาจ จึงไม่มีผู้ใดต่อต้านพระองค์ได้
สดด.18:46 พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่ และพระศิลาของข้าพระองค์เป็นที่ควรสรรเสริญ พระเจ้าแห่งความรอดของข้าพระองค์
ยรม.10:10-11 แต่พระเยโฮวาห์เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ และเป็นพระมหากษัตริย์เนืองนิตย์
1.2.พระเจ้าทรงเคยช่วยกู้ยูดาห์ในอดีตมิใช่หรือ ?
2พศด.20:7 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์มิได้ทรงขับไล่ชาวแผ่นนี้ออกไปเสียให้พ้นหน้าอิสราเอล ประชากรของพระองค์หรือ และทรงมอบไว้แก่เชื้อสายของอับราฮัมมิตรสหารยของพระองค์เป็นนิตย์

พระเจ้าทรงปฎิญาณว่าจะทรงอวยพระเชื้อสายของอับราฮัม
ปฐก.22:16-17 16 "พระเจ้าตรัสว่า เราปฏิญาณในนามของเราว่า 17 เราจะอวยพรเจ้าแน่ เราจะทวีเชื้อสายของเจ้าให้มากขึ้น ดังดวงดาวในท้องฟ้า และดังเม็ดทรายบนฝั่งทะเล เชื้อสายของเจ้าจะได้ประตูเมืองศัตรูของเจ้าเป็นกรรมสิทธิ์

พระเจ้าทรงเคยแยกทะเลแดงเป็นกำแพลงสองฝั่งให้โมเสส
อพย.14:21-22 โมเสสยื่นมือของท่านออกไปเหนือทะเล และพระเจ้าก็ทรงบันดาลให้ลมทิศตะวันออกพัด โหมไล่น้ำทะเลตลอดคืน ทำให้ทะเลกลายเป็นดินแห้ง น้ำแยกออกจากกัน 22ชนชาติอิสราเอลก็พากันเดินบนดินแห้งกลางทะเล ส่วนน้ำนั้นตั้งเป็นเหมือนกำแพงสำหรับเขา ทั้งทางขวาและทางซ้าย

พระเจ้าทรงเคยทลายกำแพงเมืองเยรีโค
ยชว.6:15-16 ในวันที่เจ็ด...เขาได้เดินกระบวนรอบเมืองเจ็ดครั้ง...โยชูวาบอกแก่ประชาชนว่า "จงโห่ร้องขึ้นเถิด เพราะ
พระเจ้าทรงมอบเมืองให้แก่ท่านแล้ว ... ประชาชนได้ยินเสียงเขาแกะ เขาก็โห่ร้องดังและกำแพงก็พังลงราบ ประชาชนจึงขึ้นไปในเมือง ทุกคนต่างตรงไปข้างหน้าตนและเข้ายึดเมืองนั้น

1.3. พระเจ้าทรงช่วยกู้ยูดาห์ในอนาคตมิใช่หรือ
2พศด.20:12 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ พระองค์จะไม่ทรงกระทำการพิพากษาเหนือเขาหรือ เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลายไม่มีฤทธิ์ที่จะต่อสู้คนหมู่มหึมานี้ ซึ่งกำลังมาต่อสู้กับข้าพระองค์ทั้งหลาย ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่ทราบว่าจะกระทำประการใด

สภษ.23:18 มีอนาคตแน่นอนทีเดียว และความหวังของเจ้าจะมิได้ถูกตัดออก

2.เยโฮซาฟัทยืนต่อหน้าพระนิเวศและอธิษฐาน

2พศด.20:9 ข้าพระองค์ทั้งหลายจะยืนอยู่ต่อหน้าพระนิเวศนี้และต่อพระพักตร์พระองค์

2พศด.20:3 และเยโฮชาฟัทก็กลัว และมุ่งแสวงหาพระเจ้า และได้ทรงประกาศให้อดอาหารทั่วยูดาห์

1พกษ.9:3 พระนิเวศซึ่งเจ้าได้สร้างนี้ไว้ เป็นสถานบริสุทธิ์ และได้ประดิษฐานชื่อของเราไว้ที่นั่นเป็นนิตย์ ตาของเราและใจของเราจะอยู่ที่นั่นตลอดไป

2พกษ.20:5-8 เราได้ยินคำอธิษฐานของเจ้าแล้ว เราได้เห็นน้ำตาของเจ้าแล้ว ดูเถิด เราจะรักษาเจ้าในวันที่สามเจ้าจะเข้าไปในพระนิเวศของพระเจ้า และเราจะเพิ่มชีวิตของเจ้าอีกสิบห้าปีเราจะช่วยกู้เจ้า และเมืองนี้จากมือของพระราชาแห่งอัสซีเรีย และป้องกันเมืองนี้ไว้

มธ.21:13 พระองค์ตรัสกับเขาว่า "มีพระวจนะเขียนไว้ว่า นิเวศของเราเขาจะเรียกว่า เป็นนิเวศอธิษฐาน

3.จงสังเกตการช่วยกู้ของพระเจ้า

2พศด.20:15 พระเจ้าตรัสดังนี้แก่ท่านทั้งหลายว่า"อย่ากลัวเลย และอย่าท้อถอยด้วยคนหมู่มหึมานี้เลย เพราะว่าการสงครามนั้นไม่ใช่ของท่าน แต่เป็นของพระเจ้า

4.เริ่มต้นสรรเสริญพระเจ้าล่วงหน้า

2พศด.20:23-26 และเมื่อเขาทั้งหลายตั้งต้นร้องเพลงสรรเสริญ พระเจ้าทรงจัดกองซุ่มคอยต่อสู้กับคนอัมโมน โมอับ และชาวภูเขาเสอีร์เพราะว่าคนของอัมโมนและของโมอับ ได้ลุกขึ้นต่อสู้กับชาวภูเขาเสอีร์ ทำลายเขาเสียอย่างสิ้นเชิงและเมื่อเขาทั้งหลายทำลายชาวเสอีร์หมดแล้ว เขาทั้งสิ้นช่วยกันทำลายซึ่งกันและกัน เมื่อเยโฮชาฟัทและประชาชนของพระองค์มาเก็บของเสียจากเขาทั้งหลาย เขาพบสัตว์เป็นจำนวนมาก ข้าวของ เสื้อผ้า และของมีค่าต่างๆ ซึ่งเขาเก็บมามากสำหรับตัวจนขนไปไม่ไหว เขาเก็บของที่ริบได้เหล่านั้นสามวัน เพราะมากเหลือเกิน ในวันที่สี่เขาทั้งหลายได้ชุมนุมกันที่หุบเขา เบราคาห์ ด้วยที่นั่นเขาสรรเสริญพระเจ้าเพราะพระพร เพราะฉะนั้น เขาจึงเรียกที่นั้นว่าเบราคาห์ ( แปลว่า พระพร การสรรเสริญ ) จนถึงทุกวันนี้

No comments: