Sunday, March 8, 2009

บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบระหว่างพ่อแม่ และลูก โดย อ.กอบชัย ( 08-03-09 )

บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบระหว่างพ่อแม่ และลูก

อฟ.6:1-4 1 ฝ่ายบุตรจงนบนอบเชื่อฟังบิดามารดาของตนในองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะกระทำอย่างนั้นเป็นการถูก2 จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า นี่เป็นพระบัญญัติข้อแรกที่มีพระสัญญาไว้ด้วย 3 เพื่อเจ้าจะไปดีมาดีและมีอายุยืนนานที่แผ่นดินโลก 4 ฝ่ายท่านผู้เป็นบิดา อย่ายั่วบุตรของตนให้เกิดโทสะ แต่จงอบรมบุตรด้วยการสั่งสอน และการเตือนสติตามหลักขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ฉธบ.6:4-6 4 โอ คนอิสราเอล จงฟังเถิดพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทั้งหลายเป็นพระเจ้าเดียว5 พวกท่านจงรักพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านด้วยสุดจิตสุดใจและสิ้นสุดกำลังของท่าน 6 และจงให้ถ้อยคำที่ข้าพเจ้าบัญชาพวกท่านในวันนี้อยู่ในใจของท่าน

ปฐก.12:3 เราจะอำนวยพรแก่คนที่อวยพรเจ้า เราจะสาปคนที่แช่งเจ้า บรรดาเผ่าพันธุ์ทั่วโลกจะได้พรเพราะเจ้า

อพย.19:6 เจ้าทั้งหลายจะเป็นอาณาจักรปุโรหิต และเป็นชนชาติบริสุทธิ์สำหรับเรา นี่เป็นถ้อยคำที่เจ้าต้องบอกให้คนอิสราเอลฟัง

มธ.5:16 ท่านทั้งหลายก็เหมือนกับตะเกียง จงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาได้เห็นความดีที่ท่านทำ เขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่าน ผู้ทรงอยู่ในสวรรค์

ฉธบ.6:7-8 7 และพวกท่านจงอุตส่าห์สอนถ้อยคำเหล่านั้นแก่บุตรหลานของท่าน เมื่อท่านนั่งอยู่ในเรือน เดินอยู่ตามทาง และนอนลงหรือลุกขึ้น จงพูดถึงถ้อยคำนั้น 8 จงเอาถ้อยคำเหล่านี้พันไว้ที่มือของท่านเป็นหมายสำคัญ และจงจารึกไว้ที่หว่างคิ้วของท่าน

1. บทบาทความรับผิดชอบของลูกต่อพ่อแม่

สดด.127:3-5 3 นี่แน่ะ บุตรทั้งหลายเป็นมรดกจากพระเจ้า ผลิตผลของครรภ์เป็นรางวัล4บุตรทั้งหลายที่เกิดเมื่อเขายังหนุ่ม ก็เหมือนลูกธนูในมือนักรบ 5 ชายใดๆ ที่มีลูกธนูเต็มแล่ง ก็เป็นสุข เขาจะไม่ต้องละอายเมื่อเขาสู้ศัตรูของเขาที่ประตูเมือง

ปฐก.1:28 พระเจ้าทรงอวยพระพรแก่มนุษย์ ตรัสแก่เขาว่า "จงมีลูกดกทวีมากขึ้นจนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน จงครอบครองฝูงปลาในทะเล และฝูงนกในอากาศ กับบรรดาสัตว์ที่เคลื่อนไหวบนแผ่นดิน

สภษ.23:24 บิดาของคนชอบธรรมจะเปรมปรีดิ์อย่างยิ่ง บุคคลผู้ให้เกิดบุตรชายที่ฉลาดจะยินดีด้วยกันกับเขา

คส.3:20 ฝ่ายบุตรทั้งหลายจงเชื่อฟังบิดามารดาของตนทุกอย่าง เพราะการนี้เป็นที่ชอบพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้า

สดด.19:8 ข้อบังคับของพระเจ้านั้นถูกต้อง กระทำให้จิตใจเปรมปรีดิ์ พระบัญญัติของพระเจ้านั้นบริสุทธิ์ กระทำให้ดวงตากระจ่างแจ้ง

สดด.119:75 ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ทราบว่าการพิพากษาของพระองค์นั้นถูกต้องแล้ว และทราบว่าด้วยความซื่อตรงพระองค์ทรงให้ข้าพระองค์ทุกข์ยาก

ฮชย.14:9 ผู้ใดที่ฉลาด ก็ให้เข้าใจสิ่งเหล่านี้เถิด ผู้ใดที่ช่างสังเกต ก็ให้เขารู้ เพราะว่าพระมรรคาของพระเจ้าก็เที่ยงตรง ผู้ชอบธรรมทั้งหลายก็เดินในทางนี้ แต่ผู้ทรยศก็สะดุดอยู่ในทางนี้

อพย.20:12 จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า เพื่ออายุของเจ้าจะได้ยืนนานบนแผ่นดิน ซึ่งพระเจ้าของเจ้าประทานให้แก่เจ้า

อฟ.5:2-3 2 และจงดำเนินชีวิตในความรัก เหมือนดังที่พระคริสต์ได้ทรงรักเราทั้งหลาย และทรงประทานพระองค์เองเพื่อเรา ให้เป็นเครื่องถวายและเครื่องบูชาอันเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า 3 แต่การเอ่ยถึงการล่วงประเวณี การลามกต่างๆและการละโมบ อย่าให้มีขึ้นในพวกท่านเลย จะได้สมกับที่ท่านเป็นธรรมิกชน

อพย.21:15,17 15"ผู้ใดทุบตีบิดามารดาของตน ผู้นั้นจะต้องถูกปรับโทษถึงตาย 17 "ผู้ใดด่าแช่งบิดามารดาของตน ผู้นั้นต้องถูกปรับโทษถึงตาย

ลก.2:51-52 51 แล้วพระกุมารก็ลงไปกับเขา ไปยังเมืองนาซาเร็ธ อยู่ใต้ความปกครองของเขา มารดาก็เก็บเรื่องราวทั้งหมดนั้นไว้ในใจ 52 พระเยซูก็ได้จำเริญขึ้นในด้านสติปัญญา ในด้านร่างกาย และเป็นที่ชอบจำเพาะพระเจ้า และต่อหน้าคนทั้งปวงด้วย

2.บทบาทความรับผิดชอบของบิดามารดาต่อบุตร

อฟ.6:4 ฝ่ายท่านผู้เป็นบิดา อย่ายั่วบุตรของตนให้เกิดโทสะ แต่จงอบรมบุตรด้วยการสั่งสอน และการเตือนสติตามหลักขององค์พระผู้เป็นเจ้า

2.1. การยั่วบุตรให้เกิดโทสะ
2.1.1. การดูแลปกป้องจนเกินขอบเขต
2.1.2. การรับลูกไม่เท่ากัน
2.1.3. การที่พ่อแม่ ผลักดันลูกให้ไปถึงจุดที่เกิดความมีเหตุผล
2.1.4. การตำหนิติเตียนจนเกินเหตุ
2.1.5. การไม่ดูแลเอาใจใส่ลูกด้วยความใกล้ชิดและความรัก
2.1.6. การที่ไม่ยอมให้เด็กเติบโตตามสภาพที่ปกติ
2.1.7. การให้ความรักแก่ลูกอย่างมีเงื่อนไขเหมือนเป็นรางวัล
2.1.8. การปฏิบัติหรือลงโทษลูกอย่างรุนแรงทางร่างกายหรือจิตใจ

การฝึกและการสั่งสอนตามแนวพระวจนะของพระเจ้า
อฟ.6:4 ฝ่ายท่านผู้เป็นบิดา อย่ายั่วบุตรของตนให้เกิดโทสะ แต่จงอบรมบุตรด้วยการสั่งสอน และการเตือนสติตามหลักขององค์พระผู้เป็นเจ้า

สภษ.22:6 จงฝึกเด็กในทางที่เขาควรจะเดินไป และเมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่แล้วเขาจะไม่พรากจากทางนั้น

No comments: